คณะผู้แทนอิหร่าน นำโดย อายะตุลเลาะฮ์ อะลี ริฎอ อะรอฟี ประธานองค์การการศึกษาอิสลามนานาชาติอัลมุสตอฟา ประเทศอิหร่าน เข้าพบจุฬาราชมนตรี กระชับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องมุสลิม พร้อมทั้งมีการปรึกษาแลกเปลี่ยนหาแนวทางสร้างเอกภาพและปรองดองสมานฉันท์ ระหว่างมุสลิม เพื่อการนำเสนออิสลามที่แท้จริงสู่ประชาคมโลก
วันที่ 11 ก.พ. 58 เวลา 11.00 น. อายะตุลเลาะฮ์ อะลี ริฎอ อะรอฟี ประธานองค์การการศึกษาอิสลามนานาชาติอัลมุสตอฟา ประเทศอิหร่าน ตัวแทนผู้นำสูงสุดของอิหร่าน พร้อมด้วย นายฮูเซน กามาลียอน เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย นายนัจรีญอน ซอเดะห์ อุปทูตวัฒนธรรม เชคการีมี กุดดูซีย์ ผู้แทนมหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี นักการศาสนาและผู้นำมุสลิมชีอะห์ในประเทศไทย นายเลอพงษ์ ซาร์ยีด นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทยอิหร่าน และคณะ ได้เข้าพบเยี่ยมคารวะนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ที่สำนักจุฬาราชมนตรี คลอง 9 เขตหนองจอก
โดยการเข้าพบครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องมุสลิม อิหร่านกับประเทศไทย พร้อมทั้งมีการปรึกษาแลกเปลี่ยนหาแนวทางสร้างเอกภาพและปรองดองสมานฉันท์ ระหว่างมุสลิม เพื่อการนำเสนออิสลามที่แท้จริงสู่ประชาคมโลก
ในการนี้ อายะตุลเลาะฮ์ อะรอฟี กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่การมาเยือนไทยครั้งนี้ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ จุฬาราชมนตรีของไทย และว่า ในช่วงนี้อยู่ในวาระครบรอบ 36 ปีของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน จึงขอใช้โอกาสนี้เรียนแก่ท่านจุฬาราชมนตรีว่า แม้การปฏิวัติอิสลามของประเทศอิหร่าน กำเนิดมาจากประชาชนมุสลิมชาวอิหร่าน แต่อิหร่านไม่ได้แบ่งแยกเรื่องนิกายหรือสำนักคิด กลับกันอิหร่านมองว่าโลกมุสลิมนั้นเป็นหนึ่งเดียว และอิหร่านมีพันธกิจที่จะต้องหยิบยื่นความช่วยเหลือไปยังมุสลิมทั่วโลก
“อิหร่านได้ให้การช่วยเหลือผู้ยากไร้และมุสลิมผู้ถูกกดขี่ทั่วโลก โดยไม่ได้แบ่งแยกทางมัซฮับ (นิกาย) ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากกรณีปาเลสไตน์ ที่อิหร่านได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือนับตั้งแต่ปฏิวัติอิสลามสำเร็จใหม่ๆ มาจวบจนปัจจุบันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น และจะดำเนินเช่นนี้ต่อไป แม้อิหร่านจะถูกกดดันจากชาติตะวันตกก็ตาม”
“นับแต่อดีตมหาอำนาจดำเนินนโยบายพยายาม ทำลายล้างอิสลามอันบริสุทธิ์ในทุกวิถีทาง โดยปัจจุบันพวกเขาได้ใช้พวกสุดโต่งทั้งจากฝ่ายชีอะห์และซุนนีเป็นแขนขาสร้าง ความเกลียดชังให้โลกอิสลาม พวกสุดโต่งได้ตกเป็นเครื่องมือของชาติตะวันตกโดยไม่รู้ตัว พวกเขาได้ใช้สื่อออนไลน์และสือต่างๆ แพร่ความแตกแยกในหมู่พี่น้องมุสลิมอย่าง รวดเร็ว เพื่อสร้างความอ่อนแอให้โลกมุสลิม ดังนั้นมุสลิมจะต้องตระหนักและไม่ตกไปอยู่ในกลเกมดังกล่าว”
“มุสลิมทุกมัซฮับทั้งชีอะห์และอะห์ลิซ ซุนนะห์พวกเราทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน เพราะทุกคนต่างนับถือพระเจ้าองค์เดียวกัน มีท่านศาสดามูฮัมหมัดและมีคำภีร์อัลกุรอานเหมือนกัน มุสลิมทุกคนหันหน้านมาซไปยังกิบลัตเดียวกัน และหวังว่าการพบปะครั้งนี้จะนำมาซึ่งความร่วมมือระหว่างพี่น้องมุสลิมเพิ่ม มากขึ้นและดำเนินต่อไป เพื่อเราจะได้นำเสนอให้ประชาคมโลกเข้าใจในแนวทางอิสลามที่แท้จริง” ประธานองค์การการศึกษาอิสลามนานาชาติ อัลมุสตอฟา กล่าว
ในการพบปะครั้งนี้ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีได้ให้การต้อนรับอายาตุลเลาะฮ์ อะรอฟี และคณะอย่างอบอุ่น โดยกล่าวว่า ท่านยินดีต้อนรับมุสลิมทุกมัซฮับ และไม่เคยมองว่ามุสลิมชีอะห์แตกต่างจากมุสลิมกลุ่มอื่นๆ ในประเทศไทย
“เรามีกาลีมะฮ์ (คำปฏิญาณ) เดียวกัน จะแตกแยกกันทำไม เราไม่เคยมองความแตกต่างระหว่างชีอะห์และซุนนี โดยเฉพาะยุคสมัยนี้ เราต้องเร่งสร้างเอกภาพระหว่างชีอะห์และซุนนีให้รวดเร็วที่สุด และต้องเร่งหามาตรการขจัดความแตกแยกในสังคมอย่างเร่งด่วน” จุฬาราชมนตรี ถ่ายทอดผ่าน อาจารย์สุธรรม บุญมาเลิศ เลขานุการจุฬาราชมนตรี
นอกจากนี้ อายะตุลเลาะฮ์ อะรอฟี ในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบการศึกษาด้านอิสลามของนักศึกษาต่างชาติในอิหร่าน กล่าวกับท่านจุฬาราชมนตรีว่า อิหร่านพร้อมให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยไปศึกษาในประเทศอิหร่านผ่านทางสำนัก จุฬาราชมนตรีเป็นผู้คัดเลือก และพร้อมให้การสนับสนุนกิจกรรมของสำนักจุฬาฯ ในทุกกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมุสลิม อาทิ การจัดงานเมาลิด การจัดงานฮาลาล เป็นต้น
“นักเรียนที่สนใจไปเรียนที่อิหร่านในระดับปริญญาตรี ทางอิหร่านมีทุนการศึกษาให้ และยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการนำเยาวชนซุนนีไปเรียนเกี่ยวกับชีอะห์แต่อย่างใด เพราะในอิหร่านมีมหาวิทยาลัยของซุนนีเฉพาะและมหาวิทยาลัยที่สอนทุกมัซฮับ รวมทั้งมัซฮับที่มุสลิมไทยถือปฏิบัติอยู่ ซึ่งจากนี้ไปทางสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย จะตั้งตัวแทนมาเป็นคณะทำงานเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้และลงนามข้อตกลง ร่วมกัน” ตัวแทนผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าว
ท้ายสุด อายะตุลเลาะฮ์ อะรอฟี ได้เรียนเชิญนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เดินทางเป็นแขกไปเยือนสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งท่านจุฬาราชมนตรีได้กล่าวขอบคุณตัวแทนผู้นำสูงสุดของอิหร่านที่ให้ เกียรติมาเยี่ยม ส่วนการเดินทางไปเยือนอิหร่านนั้นก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ด้วยภาวะสุขภาพของท่านในปัจจุบันก็จะพิจารณาว่า จะมีโอกาสเดินทางไปแค่ ไหนอย่างไร
กล่าวสำหรับ อายะตุลเลาะฮ์ อะรอฟี เป็นนักการศาสนาที่โดดเด่นคนหนึ่งของประเทศอิหร่าน เป็นผู้แทนคนหนึ่งที่ใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจจากอายะตุลเลาะฮ์ คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ดำรงตำแหน่งสำคัญๆหลายตำแหน่ง เช่น ประธานองค์การการศึกษาอิสลามนานาชาติ ที่รับผิดชอบดูแลนักศึกษาต่างชาติซึ่งมีกว่า120 ประเทศที่เข้าไปศึกษาด้านศาสนาอิสลามในประเทศอิหร่าน โดยมีสถาบันในเครือข่ายกว่า 100 สถาบันทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยนานาชาติอัลมุสตอฟา อัลอาลามียะฮ์ ซึ่งท่านเป็นอธิการบดีด้วย นอกจากนั้นอายะตุลเลาะฮ์อะรอฟี ยังเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปวัฒนธรรมของอิหร่านที่กำกับทิศทางและนโยบายสำคัญๆ อิหร่าน และล่าสุดท่านเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นอิมามนำละหมาดวันศุกร์ประจำเมือง กุม ซึ่งเป็นเมืองศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์